คุณผู้หญิงคงเคยเกิดอาการนี้บ่อยๆ คือไปเดินชอปปิ้งแล้วก็ซื้อของที่ตอนแรกไม่คิดว่าจะซื้อจนสุดท้ายกระเป๋าแฟบหมดตัวกลับบ้าน… (สำหรับคุณผู้หญิงที่อ่านอยู่.. ไม่ต้องยิ้มเลย เรารู้ว่าคุณเคย; สำหรับคุณผู้ชาย.. เราเชื่อว่าท่านคงเคยพบเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว ยิ่งถ้าไปเดินกับแฟนด้วยแล้ว อาจเคยได้ประสบการณ์ตรงเพราะไอ้ที่แฟบน่ะ กระเป๋าคุณผู้ชายไม่ใช่กระเป๋าคุณหญิง)
ก่อนที่จะโดนคุณผู้หญิงรุมกระตืบเนื่องจากเอาความจริงมาเปิดเผย ขอเข้าเรื่องเลยดีกว่า…
เมื่อวันก่อน (วันอังคาร) น้องแบงค์รับอาสาพาพี่แก่ไปเดินชอปปิ้ง… เอ่อ… ถ้าใครยังไม่รู้ว่าพี่แก่คือใคร เขาคือเพื่อนของพี่โต้ง จากโพสก่อนหน้านี้
พี่แก่จะมีเวลาว่างซื้อของได้หนึ่งวันก่อนพี่เค้าจะบินกลับเมืองไทยในตอนเช้าวันพุธ สิ่งที่พี่แก่ต้องการซื้อก็คือพวกของฝากให้ภรรยาและลูก ถุงใส่ทรอมโบนให้ลูกศิษย์ และโน้ตเพลงต่างๆเพื่อเอาไปใช้สอน
น้องแบงค์ก็เลยจัดตาราง พาพี่แก่ทัวว์เริ่มออกตัวตอน 11โมงเช้า หลังกินข้าวเสร็จก็พาพี่แก่ไปร้าน pender’s ซึ่งเป็นร้านขายหนังสือทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในเมือง Denton (เพราะมันมีอยู่ร้านเดียว) แต่ถึง pender’s จะเป็นร้านขายหนังสือดนตรีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองนี้แต่ก็อย่าได้ดูถูกมันเชียว คุณสามารถเดินดูหนังสือได้หลายๆชั่วโมงในร้าน pender’s อย่างเช่นที่พี่แก่ทำในวันนั้นเป็นต้น
เราไปถึงที่ร้านกันประมาณเที่ยงวัน พี่แก่ก็ขอตัวเดินแยกออกไปดูหนังสือพร้อมกับอุทานออกมาเบาๆว่า “โห.. เห็นพูดถึงตอนแรกนึกว่าร้านจะเล็ก ไม่นึกว่าจะใหญ่ขนาดนี้” ว่าแล้วพี่แก่ก็หายตัวไปเป็นชั่วโมง ทิ้งให้น้องแบงค์เดินเตร่ไปๆมาๆอยู่ในร้าน และนั่นก็คือจุดที่ทำให้ความจนวิ่งเข้ามาชนน้องแบงค์อย่างไม่รู้ตัว
ณ ชั้นวางหนังสือหน้าร้าน น้องแบงค์เจอหนังสือรวบรวม solo transcription ของ Jackie McLean หนึ่งในมือแซ็กโซโฟนคนโปรด มีไลน์โซโลที่สวยงาม ที่น้องแบงค์กำลังมีโครงการจะแกะโซโลมาวิเคราะห์เพื่อเอามาใช้ในโซโลของตัวเองอยู่พอดี ว่าแล้วก็ถอยซะ ประหยัดเวลาแกะแถมได้คอร์ดที่มั่นใจว่าถูกชัวว์ด้วย ราคา $19.95
และที่ชั้นเดียวกันก็เจอหนังสือ Developing a Personal Saxophone Sound ซึ่งเป็นหนังสือที่ TA สอน saxophone แนะนำให้ซื้อตั้งแต่เทอมที่แล้ว จริงๆที่ฝึก Tone อยู่ทุกวันนี้ ก็คือวิธีที่ TA เค้าเอามาจากหนังสือเล่มนี้น่ะล่ะ ก็เลยซื้อมาอ่านซะ หมดตังค์อีก $19.95
เดินลึกเข้าไปอีกหน่อย ก็เจอหนังสือ All Music Guide to Jazz เป็นเหมือนหนังสือ encyclopedia สำหรับ jazz ลองพลิกๆดู เห็นมี term and definition ของศัทพ์ทางด้าน jazz รวมถึงนักดนตรี ประวัติ และ discography ด้วย เรียกว่าสุดยอดมากสำหรับเป็น reference ก็เลยต้องยอมควักกระเป๋าอีกแล้ว อันนี้โหดหน่อย $32.95
ถึงตอนนี้น้องแบงค์เริ่มรู้สึกตัวว่าขืนเดินต่อไปท่าจะไม่ดีแน่ เลยไปหาพี่แก่ดูว่าเค้าเสร็จหรือยัง ปรากฏว่าแกยังเลือกๆโน้ตอยู่เลย น้องแบงค์เลยไปจ่ายตังค์ก่อน แล้วกลับบ้านไปรอพี่เค้าอีกราวๆครึ่งชั่วโมงจึงกลับไปที่ร้านอีกครั้ง กะว่าคราวนี้พี่เค้าคงเลือกเสร็จแล้ว แต่ปรากฏว่า ยังไม่เสร็จ น้องแบงค์ก็เลยได้เดินเล่นอีกรอบ
คราวนี้ไปเจอซีดีของ Gordon Goodwin อัลบัมใหม่ล่าสุด ช่วยไม่ได้จริงๆ อันนี้ยังไงก็ต้องซื้อเพราะ Gordon นี่เป็น jazz composer & arranger ที่ลีลาดีมาก อยากเขียนเพลงได้อย่างตาคนนี้มากเลย
ถัดมาข้างๆกันก็เห็นอัลบัม Merry Chrismas ซึ่งเป็นหนึ่งในอัลบัมหายากของ Stan Kenton ที่ตอนนี้พึ่งเอากลับมา remaster ใหม่ สรุปหมดค่า CD ไปอีก $30
รวมค่า tax แล้วสรุปหมดค่าหนังสือกับซีดีไป $114.58
แพงจริงๆให้ตายสิ แต่ก็เห็นอะไรที่ควรจะมี พวกหนังสือตำราแบบนี้เมืองไทยมีน้อยมาก หาซื้อไม่ค่อยได้นอกจากจะอ่านเพื่อความรู้ของตัวเองแล้วอีกหน่อยคิดว่าคงมีโอกาสได้ไปสอน ก็คงได้ใช้เป็นเอกสารอ้างอิงหรือใช้ควบคู่การสอนแน่นอน จึงถือว่ายังไงซะเงินจำนวนนี้ก็ต้องใช้ไปกับหนังสือพวกนี้อยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ยังอยู่อเมริกา คงต้องใช้เงินกับเรื่องพวกนี้ เพราะกลับไปเมืองไทยจะหาตำราแบบนี้คงยากแล้ว
และสำหรับนักดนตรี jazz การเรียนรู้ที่สำคัญมากคือการฟัง ดังนั้นก็ฟังติดตามผลงานของศิลปินที่ผลิตงานที่มีคุณค่าจึงมาความสำคัญมาก (ที่พูดอย่างนี้เพื่อจะได้ไม่นับการฟังเพลงตลาดทั่วๆไป เพราะพวกนั้นไม่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องฟัง)
เฮ้อ… ว่าแล้วก็ต้องกินมาม่าอีกกีวันเนี่ย