ทำไมแจ๊สต้องคอร์ด 2-5-1

II-V-I progression

สำหรับคนที่เริ่มเล่นดนตรีแจ๊สจะสังเกตเห็นว่าคอร์ดที่ใช้ในเพลงส่วนใหญ่ จะประกอบไปด้วยการเคลื่อนที่ในลักษณะคอร์ด 2-5-1 อยู่เสมอ หลายครั้งอาจได้ยินคำกล่าวว่า หัวใจสำคัญของคอร์ดในดนตรีแจ๊สคือ II-V-I progression

ทำไม 2-5-1 ถึงมีความสำคัญ? จะขออธิบายดังนี้ครับ

ความสำคัญของ Dominant

การเคลื่อนที่ของคู่เสียง P5 (คู่ 5 เพอร์เฟค) จะให้ความรู้สึกแข็งแรง มั่นคง มากที่สุดในบรรดาคู่เสียงต่างๆ

คอนเสปนี้หากนำมาสร้างคอร์ดที่เคลื่อนที่จาก root จนเกิดเป็นคู่ P5 คือ คอร์ด V ไปยังคอร์ด I จะให้ cadence ที่ฟังแล้วแข็งแรงสามารถนำมาใช้จบท่อน จบเพลงได้ เรียกว่า Perfect Cadence

คู่เสียงที่แข็งแรงรองลงมาคือ P4 (คู่ 4 เพอร์เฟค) หากนำคู่เสียงนี้มาใช้ในการเคลื่อนที่ของคอร์ด จะได้การเคลื่อนที่จากคอร์ด IV ไปยังคอร์ด I เกิดเป็น cadence ที่เรียกว่า Plagal Cadence ซึ่งนิยมมากในยุคของดนตรีในโบสถ์

หากมองในแง่การทำหน้าที่ของคอร์ดต่าง ๆ (chord function) จาก root หรือเรียกว่า tonic ตัวโน้ตที่เป็นคู่ 5 (ลำดับที่ 5 จาก tonic) จะเรียกว่า Dominant ซึ่งหมายส่วนที่สำคัญ และคู่ 4 (ลำดับที่ 4 จาก tonic) จะเรียกว่า Sub-Dominant ซึ่งแปลได้ว่าส่วนที่สำคัญรองลงมาจาก dominant

การเคลื่อนที่ของคอร์ด

ในบทประพันธ์ดนตรีตะวันตกจะมีการใช้คอร์ด I – V, V – I, I – IV, หรือ IV – I กันมาก อาจมองได้ว่าเมื่อมีคอร์ดอื่นๆเข้ามาประกอบ หากมองในภาพใหญ่มันคือการเดินทางจากคอร์ด I ไปสิ้นสุดที่ V หรือ IV และกลับมาที่ I เสมอ เพียงแต่จะอยู่ในรูปแบบของการใช้คอร์ดแทนหรือไม่ ในกรณีของแจ๊ส อาจพิจารณาว่าอยู่คีย์ในเดิมด้วยหรือเปล่าเท่านั้นเอง

การใช้คอร์ดแทนเบื้องต้น คือการหาคอร์ดที่มีตัวโน้ตร่วมกันกับคอร์ดที่เรามีอยู่เพื่อเอามาใช้แทนเพื่อสร้างสีสรรให้กับเสียงประสาน โดยที่โน้ตทำนองในช่วงนั้น ๆ จะต้องสามารถอยู่ในคอร์ดที่นำมาใส่แทนคอร์ดเดิมได้ เช่น คอร์ด I สามารถใช้คอร์ด III หรือ VI มาใช้แทนได้ คอร์ด IV สามารถใช้คอร์ด II แทนได้ เป็นต้น

กลับมาถึงแจ๊ส ด้วยเหตุนี้การเดินทางจาก Tonic – (Sub-Dominant) Dominant หรือ (Sub-Dominant) Dominant – Tonic จึงยังคงความสำคัญ แต่หากลองสังเกตเสียงคอร์ด IV – V – I จะเห็นว่ายังคงมีความแข็งกระด้างอยู่ อย่างที่อ้างอิงตอนต้นว่ามันเกิดเป็นคู่เสียงที่แข็งแรงทั้งคู่ จุดที่เกิด sub-dominant จึงมีการเพิ่ม root ของคอร์ดลงไปเป็นตัว คู่3 ต่ำจากตัว root เดิม (ใช้คอร์ด II แทนคอร์ด IV) จะได้เสียงที่นุ่มนวลขึ้น และยังคงความเป็น sub-dominant – dominant – tonic ไว้อยู่

จากที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้แจ็สมีทางเดินคอร์ดที่สำคัญเป็น ii – V – I ซึ่งมาจากการเคลื่อนที่คอร์ด IV-V-I นั่นเอง

หมายเหตุ: ที่มาของบล๊อคนี้มาจากกระทู้ที่ผมเคยได้ตอบไว้ที่เวป patid.com เมื่อนานมาแล้ว บังเอิญไปเห็นอีกครั้งและคิดว่ามีประโยชน์อยู่ ทุกวันนี้ก็ยังใช้เนื้อหาส่วนนี้อธิบายในชั่วโมงแรก ๆ ของวิชา composition ที่สอน จึงได้นำมาเรียบเรียงไว้ที่นี่เพื่อให้สะดวกในการค้นหา – ทำไมjazzถึงค่อนข้างให้ความสำคัญกับ 2-5-1?